Types of Wine WinemanBKK March 18, 2024 Wine Library การรู้จัก ประเภทของไวน์ ถือเป็นก้าวแรกที่ดีในการเริ่มรู้จักโลกของไวน์ แม้ว่าการระบุประเภทของไวน์แดง หรือ ไวน์ขาวนั้นทำได้ง่ายเพียงแค่ใช้สายตาในการจำแนกสี แต่จริง ๆ แล้วไวน์แต่ละประเภทมีลักษณะ และ เอกลักษณ์เป็นของตัวเอง ซึ่งขึ้นอยู่กับพันธุ์องุ่น และ ภูมิภาคของไวน์ รวมถึงระดับของแทนนินด้วย กลิ่นและช่อดอกไม้ รสหวาน และ ระดับแอลกอฮอล์ ซึ่งล้วนส่งผลต่อรสชาติไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง และ เพื่อให้เข้าใจง่าย เราจะแบ่งประเภทของไวน์ออกเป็น 5 ประเภทหลัก ๆ ได้แก่ ไวน์แดง ไวน์ขาว ไวน์โรเซ่ ไวน์หวาน และ สปาร์คกลิ้งไวน์ ไวน์แดง (Red Wine) การผลิตไวน์แดงค่อนข้างคล้ายกับการผลิตไวน์ขาว แต่มีเพียงการเติมเปลือกองุ่น และ เมล็ดองุ่นเข้าไปในกระบวนการหมักเท่านั้น ไวน์แดงจะถูกหมักด้วยอุณหภูมิที่สูง เพื่อสกัดสี แทนนิน กลิ่น และ รสชาติที่มีระดับความเข้มข้นต่างกันออกไปตามระยะเวลาการหมัก โดยองุ่นพื้นฐานที่มักใช้ คือ Cabernet Sauvignon, Merlot, Pinot Noir และ Zinfandel ซึ่งเป็นทางเลือกที่ดีสำหรับผู้เริ่มต้นทำไวน์ ถ้าเป็นไวน์แดงบอดี้บางเบา เหมาะกับการทานคู่กับผักย่าง เนื้อขาว หรือ ไก่ ถ้าเป็นไวน์ที่มีบอดี้ปานกลางถึงเต็มสามารถเข้ากันได้ดีกับอาหารประเภทเนื้อสัตว์ เช่น สเต็ก แฮมเบอร์เกอร์ หรือ เนื้อรมควัน ไวน์ขาว (White Wine) ไวน์ขาวส่วนใหญ่มักทำมาจากองุ่นขาว จึงอาจทำให้คนส่วนใหญ่เข้าใจว่า ไวน์ขาวแปลว่าทำจากองุ่นขาว แต่แท้จริงแล้ว อาจเป็นองุ่นแดง หรือ องุ่นดำก็ได้ วิธีทำไวน์ขาวที่แน่นอน คือ การแยกเม็ดสีแดงออกแล้วใช้กับน้ำองุ่นเท่านั้น โดยไวน์ขาวส่วนใหญ่จะให้รสชาติที่สดใส เผ็ดร้อน และ มีรสชาติครีม พันธุ์ที่แนะนำสำหรับผู้เริ่มต้นไวน์ ได้แก่ Chardonnay, Riesling, Sauvignon Blanc และ Moscato เหมาะกับการทานคู่กับ ครีมชีส ( ซอฟท์ชีส ) ขนมปังขาว เนื้อ ปลา อาหารทะเล หรือสลัด ไวน์โรเซ่ (Rose Wine) ไวน์โรเซ่ มีสีเป็นดอกกุหลาบสีชมพูทำจากองุ่นแดง หรือ ดำ แตกมีความแตกต่างที่ใช้เวลาหมักสั้นประมาณ 12 – 36 ชั่วโมงเท่านั้น อย่างไรก็ตาม การทำไวน์โรเซ่ชนิดนี้มีอีกรูปแบบหนึ่งที่ได้รับความนิยม คือ เพียงผสมไวน์แดง และ ไวน์ขาวเข้าด้วยกันในทันที รสชาติของไวน์มีตั้งแต่แห้งไปจนถึงหวาน โดยมีสีชมพูอ่อนไปจนถึงสีชมพูเข้ม และ มีแทนนินในระดับที่ต่ำกว่า ไวน์กุหลาบมักจะเข้ากันได้ดีกับอาหารรสชาติเบาๆ เช่น ปลา สัตว์ปีก หรือผลไม้ ไวน์หวาน (Dessert Wine) ไวน์หวาน เป็นไวน์ไม่มีคำจำกัดความที่ตายตัว ส่วนใหญ่เป็นเพราะลักษณะของความหวานที่มีโอกาสเสิร์ฟพร้อมของหวานหลังมื้ออาหาร แต่ในบางประเทศ เช่น สหราชอาณาจักร ผู้คนมักจะดื่มไวน์ขาวหวานเป็นเหล้าก่อนอาหาร และ ไวน์แดงหวานเพื่อล้างปากในภายหลัง ไวน์หวานสามารถแบ่งได้เป็น Port, Tawny หรือ Sherry เป็นต้น จากชื่อแน่นอนว่าเป็นไวน์ที่เหมาะกับการทานคู่กับของหวาน และ นอกจากของหวานแล้ว ไวน์ยังสามารถจับคู่กับเนื้อรมควัน และ ชีสเนื้อนุ่มได้อย่างลงตัวอีกด้วย สปาร์คกลิ้งไวน์ (Sparkling Wine) สปาร์คกลิ้งไวน์ เป็นไวน์ที่มีความซ่า ฟองประกายจากคาร์บอนไดออกไซด์ ซึ่งสามารถเกิดได้ตามธรรมชาติ หรือ เป็นการเติมเข้าไปในระหว่างกระบวนการหมัก เป็นไวน์ที่มีภาพลักษณ์ว่าเป็นไวน์สำหรับการเฉลิมฉลอง สปาร์คกลิ้งไวน์สามารถแบ่งตามภูมิภาคเพิ่มเติมได้ เช่น Cava ในสเปน, Asti หรือ Prosecco จากอิตาลี และ Champagne จากภูมิภาค Champagne ในฝรั่งเศส ซึ่งเหมาะกับการจัดงานปาร์ตี้ ให้ลองจับคู่สปาร์คกลิ้งไวน์กับสลัด ชีส ปลา หรือ ขนมปัง หลังจากที่เราได้รู้จักไวน์ประเภทต่าง ๆ แล้ว เราก็จะสามารถเลือกซื้อไวน์ ในลักษณะที่ตัวเรานั้นชอบได้ และ สามารถเลือกได้เหมาะสมกับงานต่าง ๆ รวมไปถึงอาหารที่เหมาะสมในการทานคู่กับไวน์ เพื่อส่งให้ได้อรรถรสในมื้อาหารสุดพิเศษนั้นมากยิ่งขึ้น หลังจากที่ได้ทราบถึง ประเภทของไวน์ ในแต่ละชนิดแล้ว ถ้าหากอยากทราบที่ลึกกว่านั้น โดยการชิมสามารถติดต่อสอบถาม หรือหาข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่เว็ปไซต์ Liquid Library หรือช่องทาง Social Media อื่น ๆ ได้เช่นกันครับFacebook : Liquid LibraryInstargram : liquidlibrary.info Posted in Wine Library Post navigation Previous Previous post: Fantini Edizione Cinque Autoctoni 2020Next Next post: ความสำคัญของ ” แก้วไวน์ “